บทความ OAE

รู้ทันโรค... แยกให้ถูก ไข้หวัดธรรมดา vs ไข้หวัดใหญ่

หมวดหมู่ : 

“ไข้หวัด” และ “ไข้หวัดใหญ่” เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย และมีอาการคล้ายกันมาก จนหลายคนอาจแยกไม่ออก แต่ความจริงแล้วโรคทั้งสองนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งด้านสาเหตุ ความรุนแรง และวิธีการรักษา

สาเหตุของโรค

ประเภทโรค

สาเหตุ

ไข้หวัดธรรมดา (Common Cold)เกิดจากไวรัสหลายชนิด โดยเฉพาะRhinovirus
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)เกิดจากเชื้อไวรัสInfluenza virus (เช่น  Influenza A และ B)

ความรุนแรงของอาการ

อาการ

ไข้หวัดธรรมดา

ไข้หวัดใหญ่

ไข้มักไม่มี หรือไข้ต่ำไข้สูงเฉียบพลัน  38–40°C
ปวดศีรษะอาจมีเล็กน้อยมักพบได้บ่อยและรุนแรง
ปวดเมื่อยตัวน้อยมาก รู้สึกอ่อนเพลีย
ไอไอเล็กน้อยไอแห้งแรง
คัดจมูก/น้ำมูกไหลพบบ่อยพบได้บ้าง
หนาวสั่นแทบไม่มีพบบ่อย
ระยะเวลาอาการ3–5 วัน7–10 วัน หรือมากกว่าในบางราย

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวัง

  • ไข้หวัดธรรมดา ส่วนใหญ่ไม่อันตราย และหายได้เอง
  • ไข้หวัดใหญ่ อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม โดยเฉพาะ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว (เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน) หญิงตั้งครรภ์

การรักษา

  • ไข้หวัดธรรมดา รักษาตามอาการ เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และใช้ยาลดไข้
  • ไข้หวัดใหญ่ อาจจะต้องใช้ยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir (Tamiflu) หากได้รับการวินิจฉัยเร็ว (ภายใน 48 ชม. แรกของอาการ)

การป้องกัน

  • ล้างมือบ่อย ๆ
  • ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการ

วัคซีน

  • ไม่มีวัคซีนสำหรับไข้หวัดธรรมดา
  • มีวัคซีนสำหรับไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ฉีดทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

สรุปอย่างเข้าใจง่าย

จุดเปรียบเทียบไข้หวัดธรรมดาไข้หวัดใหญ่
ความรุนแรงเบารุนแรง
ระยะเวลาป่วยสั้นนาน
การแพร่กระจายช้าเร็ว
ภาวะแทรกซ้อนน้อยมากในกลุ่มเสี่ยง
วัคซีนป้องกันไม่มีมี