บทความ OAE

แสงสว่างที่เหมาะกับดวงตา : ปกป้องสายตา ลดความเมื่อยล้า

หมวดหมู่ : 

แสงสว่างเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพดวงตาโดยตรง ทั้งในการทำงาน การอ่านหนังสือ หรือแม้แต่การพักผ่อน หากสภาพแสงไม่เหมาะสม อาจทำให้ดวงตาเมื่อยล้า แห้ง หรือเสี่ยงต่อปัญหาทางสายตาในระยะยาว ดังนั้น การเลือกแสงสว่างที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจ

ลักษณะของแสงที่เหมาะสมกับดวงตา

1. ความสว่าง (Brightness)

แสงไม่ควรมืดเกินไปหรือสว่างจ้าเกินไป

ค่าแสงที่แนะนำสำหรับการอ่านหรือทำงานอยู่ที่ประมาณ 300-500 ลักซ์ (lux)

พื้นที่สำนักงานควรมีความสว่างเฉลี่ย 500 ลักซ์ขึ้นไป

2. อุณหภูมิสี (Color Temperature)

แสงที่เหมาะสมควรมีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4000K – 6500K
(ค่าที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ)

สำหรับอ่านหนังสือหรือทำงาน: แสงขาวนวล (Cool White) ประมาณ 5000–6000K

สำหรับพักผ่อน: แสงวอร์มไวท์ (Warm White) ประมาณ 2700–3000K ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

3. ไม่มีแสงกระพริบ (Flicker-Free)

แสงที่กระพริบเร็วจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีผลทำให้ปวดตาและเมื่อยล้า

ควรเลือกหลอดไฟหรือโคมไฟที่มีระบบกันแสงกระพริบ

4. ไม่มีแสงสะท้อนหรือแสงจ้า (Glare-Free)

หลีกเลี่ยงแหล่งกำเนิดแสงที่ทำให้เกิดแสงสะท้อนกับหน้าจอหรือกระดาษ

ใช้มุมจัดวางไฟให้ตกเฉียง ไม่ให้แยงตาหรือสะท้อนเข้าสายตาโดยตรง

 ผลกระทบจากแสงที่ไม่เหมาะสม

ปัญหาสาเหตุจากแสงผลกระทบ
ตาแห้ง ตาล้าแสงจ้าเกินไป หรือมืดเกินไปปวดตา ปวดหัว สมาธิลดลง
สายตาสั้นหรือสายตายาวเร็วขึ้นใช้สายตาภายใต้แสงน้อยเป็นเวลานานเพิ่มภาระการทำงานของดวงตา
นอนไม่หลับใช้แสงฟ้าจากหน้าจอก่อนนอนรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน

 แนวทางปฏิบัติเพื่อถนอมสายตา

เลือกใช้แสงธรรมชาติเป็นหลักในเวลากลางวัน
วางโต๊ะทำงานใกล้หน้าต่าง หรือเปิดม่านรับแสงอย่างเหมาะสม

ใช้โคมไฟเฉพาะจุดในการอ่านหรือทำงาน
โดยให้แสงตกเฉียงจากด้านตรงข้ามมือข้างที่ถนัด

พักสายตาทุก 20 นาที
ใช้กฎ 20-20-20: มองไปที่จุดห่าง 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที ทุก ๆ 20 นาที 

ปรับความสว่างของหน้าจอให้ใกล้เคียงกับแสงโดยรอบ

การเลือกแสงสว่างที่เหมาะสมกับดวงตาไม่เพียงช่วยให้การทำงานหรือการอ่านมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยถนอมดวงตา ลดความเมื่อยล้า และป้องกันโรคตาในระยะยาว การใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ อย่าง "แสง" จึงเป็นพื้นฐานของการดูแลสุขภาพสายตาที่ดี